รีวิว Keychron K8
คงไม่ต้องพูดอะไรให้มากความเลยครับสำหรับคีย์บอร์ดจากแบรนด์ Keychron ซึ่งไม่ว่าจะถอยออกมาสักกี่รุ่นทุกคนก็ยังให้ความสนใจรวมถึงตัวขิงผมเองด้วยครับ เพราะต้องยอมรับเลยว่ารูปลักษณ์ที่ดูธรรมแต่เรียบหรู แฝงไปด้วยความพรีเมียม พร้อมทั้งประสิทธิภาพที่สามารถตอบสนองได้ทั้งการทำงานและเล่นเกม ใครก็อดใจไม่ไหวอย่างแน่นอนครับ โดยวันนี้ตัวที่ผมนั้นจะมารีวิวให้กับทุกคนนั้นก็คือ Keychron K8 คีย์บอร์ดขนาด TKL ที่ต้องบอกเลยว่า กดมันมือมาก ๆ ครับ
อุปกรณ์ของ Keychron K8 ที่เราได้มาลองเล่น
Keychron K8 มากับกล่องสีดำที่ดูหรูหราและสวยงาม ช่างน่าดึงดูดตั้งแต่กล่องจริง ๆ เลยเชียว ซึ่งในกล่องที่ผมเปิดออกมาดูนั้นก็จะพบกับ Keychron K8 พระเอกของงานนี้ สาย USB แบบถัก คีย์แคปสำหรับเปลี่ยนจำนวนหนึ่ง พร้อมด้วยตัวดึงคีย์แคปและสวิตซ์ ถือว่าครบครัยนมาก ๆ สำหรับการนำคีย์บอร์ดมาตกแต่งเพิ่มเติม
Design + part ต่างๆ ของ keyboard
สำหรับ Keychron K8 ถ้ามองด้วยตาเปล่าโดยยังไม่ผ่านการสัมผัสหรือจับต้องก็สามารถดึงดูดสายตาผมได้เป็นอย่างดีเลยครับ ความสวยงามบนความเรียบหรูไม่จำเป็นต้องตกแต่งอะไรเพิ่มเติมเลย ในส่วนของน้ำหนักก็เป็นคีย์บอร์ดที่ให้น้ำหนักแบบกลาง ๆ ไม่หนักหรือเบาจนเกินไป สามารถพกพาไปไหนมาไหนได้สะดวก และด้วยขนาด TKL ก็ทำให้ประหยัดพื้นที่ของโต๊ะได้พอสมควรเลย เพิ่มเนื้อที่ในการสะบัดเมาส์ได้มากขึ้นไปอีก
Case
เคล็ดลับของความแข็งแกร่งและน้ำหนักกำลังดีนั้นมาจากการที่ Keychron K8 นั้นใช้เคสจากอะลูมิเนียมผสมผสานเข้ากับพลาสติก ABS ซึ่งเป็นที่รวมกันได้อย่างลงตัวเลย แต่แม้ว่าตัวเคสนั้นมีความหนาพอสมควร ถ้าเผลอทำตกจากที่สูงต่อให้ไม่มากก็อาจจะเกิดรอยและการแตกได้ครับ อีกทั้งยังสามารถปรับระดับความสูงได้ถึง 3 ระดับ ผมล่ะอย่างปลื้ม
PCB + Plate
และแน่นอนว่าเพื่อความรวดเร็วในการตกแต่ง แผ่น PCB ของคีย์บอร์ดนี้ก็มาพร้อมกับ Hot-swap ที่ทำให้เรานั้นสามารถเปลี่ยนสวิตซ์กันได้ทันทีไม่ต้องบัดกรีให้เสียเวลา โดยสวิตซ์ที่รองรับนั้นก็จะเป็น MX switch แบบ 3-pin และ 5-pin ทั่วไปได้เลย โดยตัวแสง RGB นั้นจะเป็นปล่อยแสงแบบทางเหนือครับ
Switch
แน่นอนครับว่าเมื่อมันสามารถ Hot-swap ได้ สวิตซ์ทุกแบบที่มีบนโลกใบนี้จึงใช้กับ Keychron K8 ไม่ว่าจะเป็นแบบ Linear, Clicky และ Tactile ใครที่ชื่นชอบการกดและเสียงแบบไหน รวมถึงแบรนด์ที่เราปักเป็นเมนในดวงใจก็สามารถนำมาสับเปลี่ยนและใชข้งานได้เลยตลอด 24 ชั่วโมง
Keycap
มาในส่วนของคีย์แคปกันบ้าง ตัวคีย์แคปนั้นทำมาจากพลาสติก ABS ซึ่งเป็นพลาสิกแข็งที่ให้ความทนทานใช้ได้เลยล่ะครับ รวมถึงตัวอักษรแบบโปร่งแสง จึงทำให้ไฟ RGB นั้นสามารถส่องแสงลอดช่องตัวอักษณขึ้นมาสวยงามตามท้องเรื่องกันเลยทีเดียว
ฟีลในการพิม
สำหรับเจ้า Keychron K8 ที่ผมเอามาลองใช้นี้เป็นตัวที่มากับสวิตซ์ Gateron Blue Switch ซึ่งเป็นประเภทสวิตซ์แบบ Clicky ตอนพิมพ์ไปขอบอกเลยว่าให้ความรู้สึกที่ดีจริง ๆ ครับ ตัวสวิตซ์นั้นเด้งรับเข้ากับการพิมพ์ได้เป็นอย่างดี แต่หากใครที่อยากได้แบบที่ตอบสนองอย่างรวดเร็วและให้เสียงเงียบกว่า สวิตซ์แบบ Linear คือทางของคุณเลย
ระยะมือ ขนาด กว้างยาวสูง รู้สึกยังไง
สำหรับขนาดของ Keychron K8 ที่เป็น TKL นั้นก็ขอบอกเลยว่ามีการวางระยะมือที่ใกล้กันอยู่พอสมควร เนื่องจากการตัดเอาชุดปุ่มตัวเลขออก ให้เหลือแต่ปุ่มฟังก์ชันและตัวอักษรเท่านั้น โดยการเรียงของตัวปุ่มก็ไม่ได้ติดชิดกันมากมาย จึงสามารถพิมพ์ได้อย่างสนุกเลยล่ะครับ ตอนผมลองพิมพ์ก็ขอบอกว่า มันสนุกจริง ๆ นะไม่ได้โม้
การเชื่อมต่อ สะดวกมั้ย มีขั้นตอนยังไง
ในเรื่องการเชื่อมต่อนั้น Keychron K8 สามารถเชื่อมต่อได้ถึง 2 แบบด้วยกันแต่ว่าต้องไม่ลืมเปิดสวิตซ์ที่ข้างตัวคีย์บอร์ดก่อนนะครับว่าจะเลือกใช้การเชื่อมต่อแบบไหน นั่นก็คือเชื่อมต่อแบบไร้สาย ที่นำสาย USB มาเสียบเข้าคีย์บอร์ดกับตัวอุปกรณ์ที่จะใช้งานก็เป็นอันเสร็จ และอีกแบบคือเชื่อมต่อแบบ Bluetooth ที่สามารถเชื่อมต่อพร้อมกันได้มากถึง 3 ตัวเลยทีเดียว และต้องขอเน้นย้ำอีกครั้ง ไม่ว่าจะใช้การเชื่อมต่อแบบไหน อย่าลืมเปิดสวิตซ์ข้างตัวคีย์บอร์ดนะครับ
ที่ชอบ
- คีย์บอร์ดขนาด TKL ที่ทำให้ประหยัดพื้นที่และเน้นปุ่มฟังก์ชั่นแบบเข้าใจง่าย
- มี Hot-swap เปลี่ยนสวิตซ์ได้เลยไม่ต้องบัดกรี
- รองรับการกดได้มากถึง 100 ล้านครั้ง
- สามารถใช้งานได้ทั้ง Windows และ Mac
ที่ไม่ชอบ
- ไม่มีซอฟต์แวร์สำหรับตกแต่ง
- ต้องเปิดสวิตซ์โหมดเชื่อมต่อข้างตัวคีย์บอร์ด
มาให้คะแนนสำหรับ Keychron K8 ตัวนี้กัน
- วัสดุ 8/10 : ให้สูงถึง 8 คะแนนเพราะความเข้ากันของตัวอะลูมิเนียมและพลาสติก ABS ทำให้ตัวเคสนั้นมีคุณภาพที่แข็งแรงและน้ำหนักกำลังดีต่อการพกพา
- design 8.5/10 : ด้วยขนาด TKL ที่ประหยัดพื้นที่ พร้อมทั้งตัวปุ่มที่เรียงกันอย่างเป็นระเบียบและความห่างกำลังดี ไม่ให้คะแนนสูงแบบนี้ไม่ได้แล้ว
- เสียง 9/10 : ไม่ว่าจะใช้สวิตซ์แบบไหนก็ตาม เสียงที่ออกมานั้นมันให้ความรู้สึกที่ดีมาก ๆ ครับ และใครที่เอาไป Mod เพิ่มละก็ เสียงจะไพเราะขึ้นอย่างแน่นอน
- การใช้งาน 7/10 : โดยรวมแล้วแม้ปุ่มฟังก์ชันจะสามารถกดได้ครอบคลุม แต่เมื่อขาด ซอฟต์แวร์ ก็ทำให้ไม่สามารถตกแต่งได้มากไปกว่าที่เป็นอยู่ น่าเสียดายจริง ๆ ครับ
- ความคุ้มค่า 8/10 : ด้วยราคาราว ๆ 4000 บาท กับคุณภาพแบบนี้ ผมบอกเลยว่า คุ้มค่าและลงตัวมาก ๆ ครับ
Youtube แนวทางการ Mod และ Sound test
สามารถหาซื้อได้ที่ไหน
สำหรับการหาซื้อเจ้า Keychron K8 ตัวนี้ก็ไม่ได้ยากเลยครับ เพียงแค่สั่งซื้อโดยตรงที่ keychronthailand.com หรือจะเป็นที่ Mercular รวมถึง แอปพลิเคชั่นซื้อของออนไลน์ยอดฮิตอย่าง Shopee และ Lazada เพียงเท่านี้ก็สามารถสั่งซื้อเจ้า Keychron K8 ตัวนี้ให้ไปส่งกันถึงบ้านได้เลย
จบไปเป็นที่เรียบแล้วนะครับกับรีวิว Keychron K8 Wireless Hot-swappable Mechanical Keyboard คีย์บอร์ดจากแบรนด์ที่ใครหลายคนต่างก็ตกหลุมรักรวมถึงตัวผมด้วย ที่ต้องขอบอกเลยว่าหลงรักแบรนด์นี้จนถอนตัวลำบากมาก ๆ ใครที่กำลังใช้ K8 ตัวนี้ หรือเป็นรุ่นอื่นแต่จากแบรนด์ Keychron ก็คงจะต้องพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า ชอบ อย่างแน่นอนครับ และสำหรับใครที่เป็นสาย Custom อยากได้ข้อมูลรวมถึงพูดคุยแลกเปลี่ยนเรื่องคีย์บอร์ด ก็สามารถเข้ามาคุยกันได้ที่กลุ่ม Facebook ของเรา หรืออยาก chat แบบ real time กับคนคอเดียวกันก็เข้ามาคุยกันใน Line Open Chat ของเราได้ครับ รับรองว่าเมื่อคนรักอะไรมาอยู่ที่เดียวกันจะมีการแบ่งปันที่ดีเกิดขึ้นอย่างแน่นอน
ขอบคุณรูปภาพ : keychronthailand