รีวิว Keychron K3 คีย์บอร์ด Low Profile รุ่นยอดฮิต
ถ้าพูดถึง Mechanical Keyboard Low Profile หนึ่งในรุ่นที่หลายๆ คนต้องนึกถึงคือเจ้า Keychron K3 ใช่มั้ยครับ ซึ่ง K3 ตัวนี้ผมใช้มาประมาณ 1 ปีแล้วครับ ส่วนตัวก็ใช้มาเรื่อยๆ ไม่ได้คิดอะไร ด้วยความเมามันส์ในการพิมพ์ ดีไซน์สุด Minimal วางบนโต๊ะ แล้วคูลๆ ก็จบแล้วครับ ใช้งานมาเป็นปีถึงได้เข้าวงการ keyboard แบบมือใหม่ ก็เลยได้มีโอกาสมารีวิว keyboard ตัวต่างๆ ที่เค้านิยมกัน แต่ก็ลืมไป ว่าตัวเองมี K3 keyboard รุ่นยอดฮิตอยู่ที่บ้าน วันนี้เลยได้มีโอกาสเอาเจ้า K3 มานีวิวให้ทุกท่านได้ลองชม เพื่อพิจารณาว่าจะซื้อดีมั้ย รับรองว่า อ่านแล้ว จะรู้จักเจ้า K3 มากขึ้น และตัดสินใจได้ง่ายขึ้นแน่นอนครับ เดี๋ยวไปดูกันเลย
Design ของ Keychron K3
ให้ดูความแบบ low profile และสีสุดเข้มของ keychron K3 ครับ
ตัว switch และ key cap จะติดอยู่บน case เลย จะไม่มี frame เหมือน keyboard ทั่วไปครับ และอาจจะทำให้ mod ยากนิดนึง หรือไม่ mod เลยจะดีกว่า 555555
ตัว case ด้านเป็นโลหะสีดำ ประกบกับฐานสีเทา ให้ความแน่นเวลาพิมพ์ และน้ำหนักที่เบา พกพาง่าย
ถ้ามองข้างๆจะเห็นเป็น switch ที่ติดอยู่กับตัวเคส และ keycap ดูลอยๆ ครับ น้องๆ ที่ออฟฟิสแซวว่าเหมือน keyboard ที่ยังประกอบไม่เสร็จ 5555
ตัวสวัชสีส้ม ที่เอาเปลี่ยน mode Windows/Mac และเปิดปิด Keyboard หรือเปลี่ยน mode ต่อผ่านสายหรือ bluetooth อยู่ทางด้านหลัง ซ้ายบน ของ keyboard
ด้านหลัง ตรงกลาง มีช่องให้เสียบ USB C ครับ
ความเห็นส่วนตัวหลังจากได้ลอง Keychron K3
โดยรวมเป็น keyboard ที่มินิมอลมากครับ สีเทาเข้ม-อ่อน ตัดกับส้มที่ esc คือแบบวางบน deskmat หรือโต๊ะลายไม้แท้สีเข้มๆ เข้ากั๊น เข้ากัน ยิ่งถ้าวางกับ macbook สีเทานะ คือจบ ด้วยความแบบของมัน จะทำให้ลุคของคนที่ใช้งานดูคูลขึ้นมา ไม่ค่อย geek เหมือนพวก Custom keyboard อื่นๆ และ feel และเสียงการพิมพ์ แน่นอนครับมันสู้พวก custom normal profile ไม่ได้ แต่ก็โดดเด่น ใช้นุกมากกว่า Keyboard ทั่วไปแน่นอนครับ
Case ของตัว Keyboard
ตามที่บอกครับเคสของ keychron K3 จะบางมาก เค้าบอกว่า hot swap ได้ แต่ส่วนตัวหลังจากใช้งานมา 1 ปี แกะ Switch ออกมาไม่ได้แล้วครับ แน่นจัด และก็ถ้าจะเปลี่ยนก็คือต้องเอา low profile switch มาเปลี่ยนเท่านั้น ทำให้การปรับแต่ง K3 แทบจะทำอะไรไม่ได้เลยนอกจากเปลี่ยน Keycap ครับ ซึ่งถ้าเปลี่ยน ก็หมดเอกลักษ์ความเป็น K3 อีก ดังนั้น ส่วนตัวมองว่าใช้เดิมเหอะ ถ้าอยาก Mod หรือเปลี่ยนโน่นนี่นั่นแนะนำซื้อ normal profile ซักตัวแล้วจะทำอะไรก็จัดเต็มได้เลยครับ
Switch
ที่ผมใช้งานอยู่จะเป็น Blue Switch ครับ ซึ่งความรู้สึก จะไม่ clicky เท่า RK แต่จะแน่นกว่า ด้วยความ low profile ทำให้ระยะการกดไม่ลึกมาก สำหรับคนที่ชินหรือชอบ keyboard notebook จะชอบมากครับ ส่วนตัวผมชอบ Keyboard ของ Surface มาก เจอเจ้านี่เข้าไป เลยทำให้ K3 เป็น keyboard หลักอยู่เป็นปีเลยครับ
Keycap
ตัว Key cap เป็น ABS ซึ่งผมใช้มา 1 ปี ก็เงาตามคาดครับ แต่ก็ไม่ได้ติดอะไร เป็นฟีลแบบลื่นๆ มันๆ ที่เกิดมาจากการใช้งานมานาน ก็ดูเก๋าดีครับ และฟีลของ ABS ก็จะฟีลเหมือนโหละมากว่า PBT เนาะ ส่วนตัวก็ชอบครับพรีเมี่ยมดี และตัว Keycap ที่เป็น low profile ของทาง keychron ก็จะขนาดพอดี และระยะห่างแทบไม่ต้องปรับตัวเลยครับ ใช้งานได้ง่ายมาก
เสียงในการพิม
ตัวนี้จะเสียง Clicky ที่มาจาก Blue Switch ชัดมาก ด้วยความที่ Keycap จะไม่ได้สัมผัสกับตัว Case เลย ทำให้เสียงออกมาคลีนๆ ครับ ใครสงสัยว่าประมาณไหน เดี๋ยวลองฟังในคลิปนะครับ
ฟีลในการพิมพ์
จากที่บอกไป ว่าตัว Key cap จะลอยอยู่ ไม่กระทบตัว case ทำให้เวลาเราพิมพ์มันจะมีแค่ความรู้สึกเหมือนเรากดลงไปใน Blue Switch ครับ ซึ่งแรงต้านมีระดับนึงเลย และความแน่นก็มีระดับนึงแต่ไม่มาก ตัว Key Cap ยังโยกไปมาได้อยู่ ไม่แน่นมาก
ระยะมือ ขนาด กว้างยาวสูง รู้สึกยังไง
ระยะมือคือระยะของ keyboard notebook เลยครับ และด้วยความบางขนาดนี้ ไม่ต้องมีที่รองมือก็พิมพ์สบายครับ แต่ด้วยความที่เค้ารวบ layout เข้ามา ทั้งปุ่มลูกศรและปุ่ม F ถ้าใครพิมสัมผัสก็อาจจะมีวืดบ้าง แต่ใช้ไปซักพักก็ชินครับ
การเชื่อมต่อ สะดวกมั้ย มีขั้นตอนยังไง
สำหรับตัว keychron K3 จะเชื่อมต่อได้ 2 แบบคือแบบใช้สาย USB C หรือเชื่อม Bluetooth ที่สามารถเปลี่ยนได้ 3 channel โดยการกดปุ่ม fn+ตัวเลข 1, 2, 3 ได้เลยครับ สะดวกอยู่ เหมาะกับคนที่ใช้ computer port น้อยๆ ครับ
ที่ชอบ
- เป็น keyboard ที่มินิมอลมากกกก เพื่อนผมคนที่ไม่ได้เล่นและไม่เข้าใจว่าคนเล่น keyboard เล่นไปทำไม มาเจอตัวนี้ มีเลี้ยวกลับมาลองกดกันทุกคน หลายๆคนก็โดนป้ายกันไปครับ
- ตัว Keycap ของ Keychron ทำให้รู้สึก Premium เป็น plastic ที่ฟีลโลหะได้เยี่ยมยอดครับ
- ด้วยความบางของนาง และความเบา ทำให้การพกคีย์บอร์ดออกไปทำงานนอกบ้านสามารถทำได้สะดวกมากครับ
- ฟีลกดแน่น และเสียง Clicky ใสๆ ต้องไปลองกดครับ ถ้าใครชอบแล้วคือชอบเลย
ที่ไม่ชอบ
- ไม่มี dongle ส่วนตัวบางทีขี้เกียจต่อ bluetooth
- ตัวเคสเป็นแผ่น ที่ระหว่าง switch และ keycap เปิดโล่งเลย ฝุ่นเข้าง่ายมาก
- เทียบความแน่นกับ Nuphy Air 75 ฝั่งโน่นยังแน่นกว่านะ
มาให้คะแนนกัน
วัสดุ 8/10 : โดยนวมคือดี พรีเมี่ยมและมินิมอลมาก
design 9/10 : ดีไซน์สวยมากครับ ยิ่งสายมินิมอล ลอฟๆ หน่อย เจอเข้าไป โดนตกแน่นอน
เสียง 7/10 : ให้เสียง clicky ใสๆ แต่ยังไม่มีเสียงจากส่วนอื่นให้พิจารณา
การใช้งาน 9/10 : ไม่มี dongle และแอบต้องปลุกตอน sleep เยอะหน่อยกว่าจะตื่น
ความคุ้มค่า 8/10 : ถ้าใครไม่อยาก mod อะไร เอาคีย์บอร์ดบางๆ สวยๆ มาพกหรือวางคูลๆ บนโต๊ะตัวนี้น่าสนใจมากครับ ราคาตอนนี้ประมาณ 3,9xx ครับ
หาซื้อได้ที่ไหน
- Mercular
- Shopee
- Lazada
ถ้าให้เลือกเอา keyboard มาวางจัดโต๊ะคอมสวยๆ บางๆ ลอฟๆ keychron K3 เป็นตัวเลือกแรกๆ ที่ผมจะหยิบมา ทั้งความบางเบาของนาง ก็เอาไปใช้กับ Macbook หรือ Ultrabook บางๆ เบาๆ เข้ากันไปอีก ส่วนใครที่ชื่นชอบการรีวิวแบบนี้อย่างลืมแวะเข้าไปทักทายกันได้ที่ social ต่างๆของเราได้นะครับ ไม่ว่าจะเป็นช่อง Yotube, Facebook, Twitter, IG บลาๆ ให้ทุกคนได้ไปตามการอัปเดตของเราด้วยครับ ยังไงวันนี้ทางเราขอลาไปก่อน เจอกันใหม่ keyboard ตัวหน้าครับ ขอบคุณครับ
ขอบคุณรูปจาก : keychronthailand