รีวิว Nuphy Air 75
ย้อนกลับไปช่วงที่ Keychron กำลังดัง นางก็ออก K3 mechanical keyboard 75% low profile มาให้ทุกคนได้กรี๊ดกัน จะหาซื้อก็หาไม่ได้ ส่วนตัวผมเองก็ซื้อไม่ทันเช่นกัน ต้องรอเฝ้าติดตาม พอเค้าประกาศออกมา ว่าของมาแล้วก็รีบกดเลยจ้า และเจ้า k3 ก็ครองบัลลัง mechanical keyboard low profile มาอย่างยาวนาน จนมี brand ยิง FB ads มาหาผม ซึ่งก็คือเจ้า Nuphy Air 60 และก็ได้มีโอกาสลองของน้องที่ office ก็เรียกได้ว่า ไม่ถูกจริตอย่างแรงก๊องๆ แปลกๆ สู้ k3 ไม่ได้ แต่พอได้มาทำ The Serious Hobby ก็ตกกระไดพลอยโจนเข้ามาวงการ Mechanical Keyboard พอดี แล้วเราก็เลยทำการ Research ว่า Keyboard 75% ตัวไหนที่คนสนใจเยอะๆ บ้าง ดันมาเจอเจ้า Nuphy Air75 ที่คนชอบกันเยอะเลย ชน keyboard ยอดฮิต keychron k3 ได้สบาย ทางเราก็เกิดอาการคันอยากลองเล่น ก็จัดมาอย่างให้เสีย แล้วก็ได้เกิดเป็นบทความรีวิว Keyboard Mechanical Low Profile Nuphy Air 75 นี้ขึ้นมาครับ จะดียังไง สวยแค่ไหน ใช้งานจริงแล้วเป็นยังไงบ้าง เดี๋ยวไปดูกันเลย
อุปกรณ์ของ Nuphy Air 75 ที่ให้มาในกล่อง + เคส
- ตัว keyboard
- สายถัก USB C to USB A
- ที่รองติดด้านหลังเพื่อปรับระดับความสูงของ Keyboard สีส้ม สวยดี เป็นแม่เหล็ก แต่หลุดหายง่ายมาก
- Keycap สำรองเปลี่ยน Windows กับ Mac
- Switch สำรอง 3 สี Red, Brown, Blue เหมือนจะไม่ได้ให้มาสำรอง อาจจะให้เราลองเล่นมากกว่า
- ที่ดึง Keycap และ Switch สีดำส้ม สวยเด้อ
- USB dongle ที่เอาไว้ต้อง wireless 2.4 GHz อันนี้ก็สวย แต่หล่นหายง่ายเหมือนกัน ฮือออ
- เคส ด้านนอกสีเหลือง ด้านในสีเทา สวยงาม พร้อม Function ตั้งเป็นฐานเพื่อวางมือถือหรือ Tablet
Design ของ Nuphy Air 75 และอุกปกรณ์ที่ให้มา
ด้านหลังเป็น case พลาสติกสีเทาโปร่งแสง แผ่นโลหะ สลักคำว่า Nuphy สวยงาม พร้อมตัวฐานรอง keyboard สีเขียวทำให้เกาะกับกพื้นผิวที่วางมากขึ้น
ตัว frame เป็นโลหะ สีเทา เข้ากับสี Key cap และ case แถมยังให้ความรู้สึกมั่นคนแข็งแรง
ด้านหลังทางขวา เป็น switch สีเขียวมิ้นท์ เพื่อสลับโหมด Windows / Mac และมีอีกอัน เอาไว้เปิดปิด Mode ใช้สาย หรือ wireless
ด้านหลังทางซ้ายเป็นที่เสียบสาย USB C ที่ต่อจาก computer สีเขียวมิ้น สวยมากเช่นกันครับ
ตัวเคสเป็นสีเหลืองเหมือนเหลืองเส้นจราจร ด้านนอกสำผัสเหมือนหนัง ด้านในเป็นความรู้สึกคล้ายกำมะหยี่แบบละเอียดๆ ฝืดมือมาก ทำให้สามารถใส่ keyboard เข้าไปแล้ว ไม่ต้องกลัวหลุด วางมือถือหรือ tablet ได้สบาย แถมให้สัมผัสพรีเมี่ยมมากๆ
ความเห็นส่วนตัวหลังจากได้ลอง Nuphy Air 75
โดยรวมเป็น keyboard ที่สวยมากครับ ทั้งขนาดและสีสัน ความสูง และ Key cap สวยจัดๆ แบบเอาไปจัดโต๊ะคอมแจ่มมาก เพราะบางและ minimal แถมยังเบาพกพาสะดวก แต่อาจจะมีข้อเสียคือไม่สามารถ mod ให้ต๊อกได้เหมือน custom keyboard ทั่วไป แต่โดยรวมสำหรับคนที่อยากได้อยาก Mechanical Keyboard low profile ที่ให้ความแน่น พิมพ์สนุก ตัวนี้ตอบโจทย์เลย ส่วนตัวชอบมากกว่า K3 นะครับ แพ้อย่างเดียวคือความเข้ม เพราะ K3 จะสีดำคลุม theme keychron แต่ฝั่ง Nuphy Air 75 จะฟรุ้งฟริ้งกว่าครับ
Case ของตัว Keyboard
ตัว Flame ด้านบนเป็นโลหะ ส่วนเคสด้านล่างเป็น plastic โปร่งแสง ทำให้เห็น PCB ด้านใน และที่ชอบที่สุดคือเบามากครับ เบากว่า K3 อีกมั้ง แล้วก็สัมผัสตัว frame ด้วยความที่เป็นโลหะทำให้ รู้สึกพรีเมี่ยมและมั่นคง ความแบนของน้อง ทำให้เก็บเข้าเคสแล้ว ลงตัว ลองเขย่าๆ ดูคือไม่มีหลุดครับ เหมาะพกออกนอกสถานที่จริงๆ แล้วก็มีแผ่นโลหะเงาๆ ด้านหลังสลักคำว่า nuphy ทำให้ดูพรีเมี่ยมไปอีก (หลายแบรนก์ทำแล้วดูแว๊นนะ แต่ Nuphy good job จ้า) และตำแหน่งของ สวิช และ port ทำการบ้านมาได้ดีครับ ไม่รู
PCB + Plate
ตัว PCB เป็นแบบ hot swap ที่เปลี่ยน switch ได้แต่ใช้ได้แค่ low profile switch เด้อ หายากซะด้วย แต่เอาจริงคนที่จะชอบ low profile แล้วอยาก mod ก็น่าจะมีน้อยและ mod ยากกว่า เพราะด้วยความบางของ case ทำให้เราทำอะไรมากไม่ได้ และตัว plate เหมือนจะเป็นโลหะ ผมลองถอด switch ออกมาแล้วสัมผัสดู ก็รู้สึกว่าคุณภาพดีนะครับ ทำงานร่วมกับ switch และ key cap ได้ดีเลย เสียงเพราะ พิมพ์สนุกเลย (สนุกกว่า K3)
Switch
ที่เลือกซื้อมาคือเป็น Brown switch ด้วยความที่ตัวเองเป็นสาวก tactile อยู่แล้วจึงชอบมากครับ พิมพ์มันส์ แน่นเสียงดี เอาจริง ดีเกินคาด เพราะใช้ K3 มาหลายปี ซึ่งเอาตรงๆ ก๊องแก๊งอยู่พอสมควร และลองตัวไหนก็ยังสู้ไม่ได้มาเจอ Nuphy Air 75 เข้าไป รีบเปลี่ยนเอา k3 ให้แฟนใช้ทันทีเลยครับ 5555555
Keycap
ตัว key cap สัมผัสดี พรีเมี่ยมครับ เป็น PBT ทำให้ได้ความรู้สึกด้านๆ สีและทำงานมาสวยมากครับ ส่วนตัวชอบมาก วางบนโต๊ะคือสวยเลย และความรู้สึกความสูงในการวางนี้มือ คือพอดีมาก แทบจะแบนไปกับโต๊ะ ไม่ต้องหาที่รองมือมารอง ก็สบายไปอีก แต่ถ้าใครไม่ชอบ อยากลองเอา key cap ทั่วไปมาใส่ได้ครับ จะได้เสียงที่ต่างออกไป เดี๋ยวถ้าว่างๆ เดี๋ยวผมลองเอา Keycap profile ต่างๆ มาใส่แล้วทำคลิป sound test ให้ดูนะครับ
เสียงในการพิมพ์
จากที่ชมมาตั้งแต่ด้านบน คือเสียงดีกว่าที่คิดมากครับ ให้ความแน่นและ crack หน่อยๆ ตาม style tactile ซึ่งถือว่าทำได้ดี ด้วยความ low profile ระดับนี้ ทำได้เสียงแน่นขนาดนี้ ผมโอเคครับ และเหมาะกับการเอาไปทำงานใน office นะครับ เพราะเสียงไม่ดังมาก ให้ความรู้สึก Crack เบาๆ ตอนพิมพ์ คนข้างๆ ฟังก็น่าจะเพลินดีนะครบ
ฟีลในการพิมพ์
จากที่เล่าไปด้านบนครับ ความ tactile และความแน่นมาได้ดี ตัว Keycap และ switch ไม่โคลงเคลง และระยะการกดคือไม่ต้องกดลงไปเยอะ แต่จะไม่ลั่นเพราะมีความ taxtile มาขวางทำให้เราพิมไม่ลั่นอีกต่อไป (เคยลั่นหนักมากตอนช่วงใช้ low profile ของ K1 low profile red switch เข็ดกับ red low profile ไปเลยจ้า) แต่ที่มีกดผิดบ่อยคือพวก function key ต่างๆ ที่มันรวบเข้ามารวมกับปุ่มพิมพ์หลักทำให้เราพิมผิดไปบ้างครับ
ระยะมือ ขนาด กว้างยาวสูง รู้สึกยังไง
ระยะมือคือชอบมาก แทบไม่ต้องปรับตัวเลย ความเมื่อยที่เคยยกมือสูงๆ เวลาต้องพิมพ์ custom keyboard หายไป เพราะน้องแบนจัด แล้วก้ระยะห่างของปุ่มกด ก็เป็นระยะที่คุ้นชิน เหมือนตรงนี้จะไม่สำคัญ แต่อยากให้ทุกคนไปลอง GMMK Pro ระยะเค้าแปลกๆครับ ช่วงแรกจะพิมลั่นบ่อยมาก แล้วก็เค้าให้ที่ปรับระดับความสูงมาให้ในกล่องด้วย สีส้ม สวยเลย เข้ากั๊น เข้ากัน แต่ขอบ่นเรื่องนี้หน่อยละกัน คือไม่มีที่ให้เก็บจ้า หายแล้วหายเลย ในเคสก็เก็บไม่ได้
การเชื่อมต่อ สะดวกมั้ย มีขั้นตอนยังไง
ตัวนี้ให้มาแบบจัดเต็ม มีทั้งสาย ทั้ง usb dongle แล้วก็ bluetooth เรียกว่าสะดวกมาก ออกแบบมาให้พกไปทำงานที่ไหนก็ได้ ตัวสวิทต่างๆ ที่เอาไว้ปรับ mode connection ก็ทำได้ดี ทั้งตำแหน่งของ Usb c ด้วยชอบมากครับ ส่วนตัวใช้ com ที่มีแค่ USB type C เลยต้องใช้งาน bluetooth เพื่อประหยัด port แล้วก็ไม่ต้องมาเสียบสายหรือ dongle ให้ยุ่งยากด้วยครับ
Software : Nuphy console
มีเป็นแบบ Beta ให้ใช้ลองโหลดมาเล่นดูก็โอเคเลยครับ มี keybinding ตั้งค่าปุ่มต่างๆ มีตั้ง Macro และไฟต่างๆ ได้ด้วย ถ้าเป็นส่วนตัวเล่น keyboard 75 จะไม่ค่อยได้ setting มากนัก เพราะปุ่มมีครบอยู่แล้ว ยกเว้นบางปุ่มที่ไม่มี อาจจะมี set เพิ่มนิดหน่อยครับ เช่นปุ่ม insert เอาไว้นั่งเวลาเล่นเกม ragnarok 5555 รู้อายุเลย
ที่ชอบ
- เป็น low profile ที่ชอบมากกกกก ไม่รู้สึกเสียดายเลยที่สั่งเคสมาด้วยถือไปมาอย่างคูล แถมเอาไว้ตั้ง tablet หรือมือถือได้ด้วย
- เสียงดี ฟีลดี แน่นกว่าที่คิดไว้ คือเอาตรงๆ ไม่ได้คาดหวังว่า low profile จะดีขนาดนี้ และกะซื้อมาลองรีวิวแล้วจะขายต่อ แต่ตอนนี้เริ่มลังเลแล้ว เพราะส่วนตัว ก็ออกไปทำงานข้างนอกบ่อยเหมือนกัน
- สีสวย ดีไซน์พรีเมี่ยม เอาไปจัดโต๊ะคอม หรือวางหน้าคอม ตอนที่เอาไปออฟฟิสก็คือ อยากกลับมาพิมพ์เล่น น้องๆ ที่ออฟฟิสมาลอง ก็ feedback ดี มีโดยป้ายกันไปสองสามคน
ที่ไม่ชอบ
- RGB เบามาก ผมไม่ได้เปิดเลย 555555 แต่ไฟด้านข้างสองอัน สวยเด้อ
- เคสคีย์บอร์ดและเคสพกพาไม่มีที่เก็บอุปกรณ์ หายแล้ว หายเลย
- ราคาแพงกว่า K3 เอาเรื่องอยู่
- ถ้า PCB เปลี่ยนเป็นใส่ switch ธรรมดาได้ น่าจะสนุกขึ้นเยอะ
- Layout รวบปุ่มเข้ามาทำให้พิมพ์ผิดบ่อย
มาให้คะแนนกัน
- วัสดุ 8/10 : โดยรวมคือวัสดุพรีเมี่ยมทุกส่วนเลยครับ
- design 9/10 : design ทำมาดีมากครับ ทั้งในมุมความสวยงาม และการใช้งาน เอาจริงคือจบมากสำหรับสาย low profile minimal
- เสียง 8/10 : ดีกว่าที่คิดไว้มา อยากที่บอกแน่นและให้ความ tactile ได้แจ่ม เสียง Crack เพราะไม่ถึงขั้นรบกวนคนอื่น
- การใช้งาน 10/10 : อันนี้ไม่ต้องบรรยายเยอะ คือ full option
- ความคุ้มค่า 6/10 : แพงนะ เอาจริง 4,xxx บาท ถ้าไม่จับแล้วชอบเลย ก็อาจจะตัดสินใจซื้อยากหน่อย แล้วในตลาดก็คือมี custom / mechanical ราคานี้ให้เล่นอีกเพียบเลย
หาซื้อได้ที่ไหน
- Mercular
- Shopee
- Lazada
โดยรวมคือเป็น mechanical keyboard lowfile อันดับหนึ่งในใจตอนนี้เลยครับ ใครสายมินิมอล สีไม่เข้ม ไม่เนิร์ดมาก ชอบพกคีย์บอร์ดไปทำงานข้างนอก ตัวนี้แนะนำเลย ส่วนใครอยากให้เราเอา keyboard ตัวไหนมารีวิว อย่าลืมติดตาม the serious hobby ตามช่องทางต่างๆ ด้วยนะครับ เจอกันใหม่บอร์ดหน้าครับ
ขอบคุณรูปภาพ : nuphyth
